Travel and Lifestyle

เที่ยวอุทัยธานี 5 สถานที่ ที่ไม่ควรพลาด!

อุทัยธานี จังหวัดเล็กๆ ที่มีธรรมชาติรายล้อมมากมาย
แถมบรรยากาศดีจนคุณคาดไม่ถึง! อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ แค่ 200 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น



ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์
ออกไปค้นพบสถานที่ใหม่ๆ


ออกไปสัมผัสไอแดด ออกไปสัมผัสสายน้ำ
ให้ธรรมชาติโอบกอดและเยียวยาจิตใจเรา



จ.อุทัยธานี ในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว ธรรมชาติมีความสวยงามไม่แพ้ทางภาคเหนือเลยนะ ในระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สักเท่าไหร่ แต่ได้สัมผัสธรรมชาติ ชมวิวทิวทัศน์ตามสองข้างทางไปเพลินๆ ยังเผลอคิดเลยนะว่าเหมือนเราขับรถกันมาไกลกว่านั้น ได้เห็นอุทัยฯ ในแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลย


5 สถานที่ท่องเที่ยวใน จ.อุทัยธานี ที่คุณไม่ควรพลาด!
1.ชมวิวทิวเขาบริเวณฝายกั้นน้ำปางสวรรค์
2.ต้นไม้ยักษ์
3.ถ้ำพุหวาย
4.ตลาดซาวไฮ่
5.หุบป่าตาด

ยกมา 5 สถานที่เรียกน้ำย่อยกันก่อน หลากหลายอารมณ์มากเลยกับทริปนี้ เดี๋ยวเราแปะแพลนท่องเที่ยว จ.อุทัยธานี ฉบับเต็ม 3 วัน 2 คืน ไว้ให้ตอนท้ายนะคะ


Check list อุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม

สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมอีกอย่างของการไปเที่ยวยุค New Normal นี้ นอกจากจะรักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ก็ต้องอย่าลืมใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยนะ ช่วยกันลดการใช้พลาสติก ไม่ทิ้งขยะ ไม่เด็ดดอกไม้ ไม่ขีดเขียนสถานที่ นี่ก็เป็นตัวอย่างง่ายๆ ที่พวกเราช่วยกันทำได้ ธรรมชาติสวยๆ จะได้อยู่ให้พวกเราชื่นชมไปอีกนานแสนนาน



1. ชมวิวทิวเขา บริเวณฝายกั้นน้ำปางสวรรค์
📍 https://goo.gl/maps/mj9RAsfvyKjTu7pH9

เดินเล่นบริเวณฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ เที่ยวชมธรรมชาติ นอกจากสายน้ำที่ไหลเย็นชื่นใจที่เราสามารถเดินลงไปแช่เท้าได้ ยังสามารถเก็บภาพสวยๆ ได้อีกหลายมุมเลย ความสวยงามของม่านน้ำจะเป็นไปตามธรรมชาติ*



พบเจ้าถิ่นนำทาง 1 หน่วย


ไฮไลท์บริเวณของฝายกันน้ำปางสวรรค์ เรากลับคิดว่าเป็นทิวเขาด้านบนซะมากกว่า ถ้ามาจังหวะดีก็จะพบกับหมอกอันสวยงาม




2. ต้นไม้ยักษ์


ต้นไม้ยักษ์ขนาดใหญ่อายุยืนยาวนับร้อยปี ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าหมาก บ้านสะนำ เอกลักษณ์อันโดดเด่นของต้นไม้ยักษ์ต้นนี้ คือเป็นไม้เนื้ออ่อน มีพูพอนค้ำยันลำต้น ทำให้มีความสวยงามโดดเด่น จนทำให้เรารู้สึกว่าต้องไปพบเห็นสักครั้ง ถือเป็นต้นไม้ที่มีพูพอนใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้


จากจุดจอดรถยนต์ สามารถเดินเข้ามาได้ชิลๆ หรือจะเช่าจักรยานแบบเราก็ได้นะ แค่ 10 บาทเท่านั้น ระหว่างทางจะมีตลาดชุมชน ขายอาหาร เครื่องดื่มและงานฝีมือต่างๆ





3. ถ้ำพุหวาย
📍 https://goo.gl/maps/v8aNUTjt9cNNN7Qb8



ถ้ำพุหวาย ถ้ำขนาดใหญ่ เป็นภูเขาหินปูนสูงชันสลับซับซ้อน ภายในถ้ำกว้างขวาง มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก บรรยากาศค่อนข้างลึกลับ แนะนำให้ไปกันเป็นหมู่คณะ เวลาที่แนะนำคือเช้าถึงบ่ายสอง มีบริการไฟฉายหน้าทางเข้า หรือใครมีไฟฉายส่วนตัวก็อย่าลืมพกมาด้วยนะ




4. ตลาดซาวไฮ่
📍 https://goo.gl/maps/SvRbax9oPN3S8hC5A


สินค้าที่นำมาขายในตลาดซาวไฮ่ ส่วนใหญ่มักจะเป็นสินค้าพื้นฐานของคนในชุมชน สินค้าแปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตร หรือเป็นการนำวัตถุดิบต่างๆ มาประยุกต์ใช้


เปิดทุกวันเสาร์ อาทิตย์
(และช่วงเทศกาลวันหยุดยาว)
ตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 16.00 น.


ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไปจนถึงติดตั้งอ่างล้างมือไว้คอยอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ เที่ยวไปฆ่าเชื้อไปก็ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย โดยส่วนตัวแล้วแอบดีใจมากเลย ที่เห็นทุกๆ คนใส่ใจเรื่องสุขอนามัยมากขึ้นกว่าเดิม


ในตลาดมีการใช้ภาชนะจากธรรมชาติ หรือเป็นจานชามจริงๆ ที่ไม่ใช่พลาสติกด้วยนะ ซื้อมา กินเสร็จ นำภาชนะไปคืนร้าน เป็นบรรยากาศที่น่ารักมากๆ ดีต่อใจและดีต่อโลกมากๆ มีโต๊ะอำนวยความสะดวกให้เราได้นั่งรับประทานอาหาร เป็นตลาดที่เก๋ไก๋เอาเรื่องเลยนะ มีดนตรี งานคราฟท์ งานศิลป์ ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ บรรยากาศน่ารักมาก สินค้าราคาไม่แพง





5. หุบป่าตาด
📍 https://goo.gl/maps/abUXPH5zbPoQmmNS9


หุบเขาหินปูนที่รายล้อมไปด้วยต้นตาด มีความพิศวงสไตล์หนังเรื่องจูราสสิคพาร์ค เป็นสถานที่ที่เท่ไม่เบาเลยล่ะ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด!


ค่าธรรมเนียมการเข้าชมหุบป่าตาด
คนไทย เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท

เวลาเปิด-ปิด
09.00 น. ถึง 16.30 น.



Share:
Read More